ต้มยำกุ้ง โบราณ เป็นต้มยำกุ้งน้ำใส กุ้งที่ใช้แกงก็ต้องเป็นกุ้งแม่น้ำตามธรรมชาติ วัตถุดิบตั้งต้นทุกอย่างเป็นของที่หาได้จากธรรมชาติ เป็นพืชผักสวนครัวในครัวเรือน
เรียกว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักบาทก็ทำต้มยำกุ้งแสนอร่อยได้ ต้มยำกุ้ง ต้องหอมเครื่องสมุนไพรสดจากข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด เปรี้ยวจากมะนาว เค็มจากน้ำปลา หวานมันจากมันกุ้ง เพิ่มความหอมด้วยผักชี
วัตถุดิบสำหรับต้มยำกุ้ง
กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งก้ามกราม
เห็ดฟาง
ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
น้ำปลาแท้
น้ำมะนาวคั้นสด
พริกขี้หนูสวน
ผักชีไทยและผักชีใบเลื่อย
ขั้นตอนการทำต้มยำกุ้ง
ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกผ่าเอาเส้นดำบนหลังกุ้งออก ล้างให้สะอาดอีกครั้ง
เตรียมเครื่องต้มยำด้วยการทุบพริกขี้หนูให้บุบ หั่นข่าเป็นแว่น ซอยตะไคร้เป็นฝอย และหั่นรากผักชีเตรียมไว้
ตั้งน้ำสต็อก ใส่รากผักชี หอมแดง ข่าสดหั่นแว่น ตามด้วยพริกขี้หนูบุบลงไป รอจนน้ำเดือดแล้วจึงใส่เห็ดฟาง
ปรุงรสชาติความอร่อยด้วยน้ำตาลทราย น้ำพริกเผา น้ำปลา ผงรสมะนาว คนอร์ ซีเล็คชั่นส์และคนอร์อร่อยชัวร์ผงปรุงครบรส รสไก่ คนให้เข้ากัน รอจนส่วนผสมเดือด
เมื่อน้ำเดือดได้ที่ ใส่กุ้งแชบ๊วยลงไป รอจนกระทั้งกุ้งสุกจึงลดไฟลง แล้วใส่นมข้นจืด ตามด้วยใบมะกรูดซอย ชิมและปรับรสชาติตามชอบ
เคล็ดลับของการทำให้ต้มยำกุ้งอร่อย
สำหรับต้มยำกุ้งน้ำข้น ให้ใส่นมข้นจืด เป็นลำดับท้าย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการแตกมัน ส่วนเนื้อกุ้งนั้น ทั้งแบบน้ำข้นและน้ำใส เพื่อให้เนื้อยังคงแน่น ควรลวกให้สุกก่อน แล้วใส่ท้าย ๆ เช่นเดียวกับ น้ำมะนาว ไม่ควรใส่ก่อนหรือระหว่างต้ม เพราะจะทำให้น้ำต้มยำมีรสขม
คุณค่าทางโภชนาการ
– พลังงาน (กิโลแคลอรี่) 43.47
– โปรตีน (กรัม) 3.6
– ไขมัน (กรัม) 2.15
– คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 2.43
– ใยอาหาร (กรัม) 0.9
– แคลเซียม (มิลลิกรัม) 24.66
– เหล็ก (มิลลิกรัม) 0.23
ความเป็นมาของต้มยำกุ้ง
ที่มาของต้มยำกุ้งนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่หลักฐานหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนคือมีการบันทึกถึงเมนู ต้มยำ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่เป็นต้มยำปลาต่าง ๆ ส่วนในตำราแม่ครัวหัวป่าก์ (พ.ศ. 2451) โดยท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ซึ่งเป็นตำราอาหารอย่างเป็นทางการของไทยเล่มแรกได้ปรากฏชื่อเมนูต้มยำเขมร หรือแกงนอกหม้อ แต่ก็หน้าตาไม่เหมือนต้มยำกุ้งที่เรากินอยู่ในปัจจุบัน
ที่มา
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ arthurcox.net